ส่วนประกอบที่สำคัญของ CMS ที่ชื่อ Drupal

จาก บทความ Drupal คืออะไร ที่ผ่านมาทำให้เรารู้จักไปแล้วว่า Drupal เป็น CMS ที่เป็นตัว Top ในวงการ Content Management System โดยคราวนี้มาดูกันโดยละเอียดว่า Drupal มีกระบวนการทำงานที่เสมือนการต่อจิ๊กซอจนได้เป็นหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ซึ่งมาดูกันว่าส่วนประกอบที่สำคัญของ Drupal มีอะไรกันบ้าง

ส่วนประกอบของ Drupal มีดังนี้

โครงสร้าง (Structure)

เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ เป็นเสมือนรากฐานที่สำคัญของเว็บไซต์ ซึ่งนักพัฒนาเว็บไซต์จะต้องออกแบบตามความต้องการการใช้งานของเว็บไซต์ ว่าจะประกอบไปด้วยโครงสร้างใดบ้าง โดยมีโครงสร้างที่สำคัญดังนี้

1. Taxonomy ใช้สำหรับจัดกลุ่มของเนื้อหา  จะมีประโยชน์มากในกรณีที่ต้องการดูความเชื่อมโยงของเนื้อหา
2. Content Type ใช้สำหรับสร้างประเภทเนื้อหาที่จะจัดเก็บ ซึ่งจะประกอบไปด้วย Field และ Data Type ว่าจะประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง
3. Menu คือ เมนู ใช้สำหรับรวบรวมลิงค์ (Links) ต่างๆ ที่จะใช้เชื่อมโยงไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ โดย Drupal จะมีข้อดีในการดูแลเนื้อหาของเมนู ได้ง่ายๆ
4. Block คือ ส่วนประกอบย่อยที่แสดงในหน้าเว็บไซต์ เช่น บล็อคของช่อง Search, บล็อกของ Banner ขเงเว็บไซต์ เป็นต้น
5. View คือ โครงสร้างหนึ่งที่มาจากโมดูล View ที่ติดตั้งเพิ่มใน Drupal 7 (แต่สำหรับ Drupal 8 จะเป็นโมดูลที่เป็น Core ไม่ต้องติดตั้งแล้ว) ที่จะดึงเอารายการที่ต้องการมาแสดงผล หรือ ส่ง พารามิเตอร์ บางอย่าง ให้การแสดงผลยืดหยุ่น เช่น ดูรายการข่าว ทั้งหมด โดยระบุ ประเภทข่าว หรือ คำสำคัญ ที่จะดูได้

เนื้อหา (Content)

คือ เนื้อหาที่เกิดจากการ Add Content เข้ามาจาก Content Type ที่ระบุ โดย Drupal มีระบบในการจัดเการเนื้อหา และ สามารถกรองข้อมูลที่ต้องการได้

ธีม (Theme)

คือส่วนของหน้าตา สีสันของเว็บไซต์ จะประกอบไปด้วยการตกแต่ง ทั้งในเรื่องของ ฟอนต์ สี ระยะห่าง พื้นหลัง ระยะขอบ เป็นต้น โดยเราสามารถดาวน์โหลด Theme มาติดตั้ง หรือ พัฒนาเองก็สามารถทำได้ โดยจะเกี่ยวข้องกับ CSS ของเว็บไซต์

โมดูล (Module)

โมดูล (Module) คือ ส่วนเสริม หรือบาง CMS ก็เรียกว่า AddIns หรือ Extension แต่ Drupal เรียกว่า โมดูล (Module) โดยเราสามารถติดตั้ง โมดูล เพื่อให้ Drupal มีความเก่งกาจขึ้น ได้ โดยจะมีหน้าในการบริหารจัดการโมดูล

ตัวอย่างโมดูลที่น่าสนใจได้แก่

•  โมดูล Views = จัดการเรื่องการดึงข้อมูล คล้ายๆ Query หรือ View ในฐานข้อมูล และยังส่ง Parameter เพื่อส่งผลแบบไดนามิคได้อีกด้วย
• โมดูล Date = เพื่อเป็น Data Type ให้กับฟิลด์ และ เป็น User Interface ที่ใช้ input เป็นรูปปฏิทิน
• โมดูล Token = เพื่อใช้ปรับเนื้อหาให้เป็นตัวแปร เช่น หากระบบส่ง Email หาแต่ละคนก็จะแสดงชื่อตามของแต่ละคน
• โมดูล Pathauto = สร้าง url ให้กับเนื้อหาอัตโนมัติ ช่วยสนับสนุนเรื่อง SEO
• โมดูล Chaos tool suite (ctools) = ไลบรารี่ ที่มีความจำเป็นในอีกหลายๆ โมดูล ที่จะเรียกใช้งาน
• โมดูล Backup and Migrate = ใช้สำหรับ Backup และ Restore ฐานข้อมูลของเว็บไซต์

User Management

Drupal เป็น CMS ที่เราสามารถรองรับการการใช้งานของผู้ใช้ได้ไม่จำกัด พร้อมสามารถกำหนดสิทธิ์ในการใช้งาน การเข้าถึงส่วนประกอบต่างๆ ได้ เช่น ให้ดูเนื้อหาอย่างเดียว หรือ สร้างเนื้อหาได้ แก้ไขได้เฉพาะ เนื้อหาของตนเอง เป็นต้น ทำให้เราสามารถสร้างทีมงานมาช่วยสร้างเนื้อหา (Contributor) ได้

Configuration

Configuration เป็นส่วนของการปรับแต่งส่วนประกอบภายในเว็บไซต์ ทั้งการเปิด/ปิด เว็บไซต์ การแก้ไขข้อมูลพื้นฐานของเว็บไซต์ Drupal มีความสามารถในการปรับแต่ง Performance ที่จะทำให้การโหลดเว็บไซต์เร็วขึ้น การตั้งค่าของ Editor การกำหนดค่าด้าน SEO เป็นต้น

ส่วนของรายงาน (Report)

ในส่วนนี้จะมีรายงานต่างๆ ที่จำเป็นต่อการตรวจสอบ ติดตาม สรุปผลข้อมูลของเว็บไซต์ของเราไม่ว่าจะเป็น

• Status Report = รายงานแสดงสถานะของรายงานภาพรวมเว็บไซต์
• Recent log messages = รายงาน log ของเว็บไซต์
• Top Referral Site = รายงานการเชื่อมโยงว่ามีการมาที่เว็บไซต์เราจากเว็บไซต์ใด จำนวนเท่าใด
• Top Search Phrases = รายงานคำค้นที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ค้นหาจากคำค้นใด

นี่คือส่วนประกอบที่สำคัญ ที่ต่อจิ๊กซอมารวมกันเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพได้ด้วย Drupal มาลองสร้างเว็บไซต์กันนะครับ โดยเข้าใจแต่ละส่วนประกอบอย่างลึกซึ้ง ก็จะทำให้เราสามารถสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ที่เราต้องการได้
 
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ถูกสร้างและพัฒนาด้วย Drupal
ลองดูกันได้ที่บทความ บทความ Drupal คืออะไร

แนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอบรม

9Expert Training มีหลักสูตรที่จะสอนการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ด้วย Drupal ในหลักสูตร "Web Site Development By Drupal"
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.9experttraining.com/web-site-development-by-drupal-training-course