รู้จักกับ 4 โหมดของ Power BI (โหมด Import, Direct Query, Live, Composite)

รู้จักกับ 4 โหมดของ Power BI (โหมด Import, Direct Query, Live, Composite)
โหมดการทำงานใน Power BI
การเชื่อมโยง Data Source ใน Power BI สามารถใช้งานได้ในหลายรูปแบบ บางงานหากเลือกรูปแบบเหมาะสมจะได้ประสิทธิภาพดีขึ้น หรือได้ข้อมูลที่อัพเดตเป็นปัจจุบันได้ และไฟล์ Power BI เล็กลง เร็วขึ้น ที่คนทำงาน Power BI ต้องทราบเรียนรู้โหมดการทำงานใน Power BI ใน 4 โหมด พร้อมข้อดี ในแต่ละโหมดให้เลือกใช้งานให้เหมาะสมกับงาน 4 โหมดการทำงานของ Power BI มีดังนี้
- Import
- Direct Query
- Live
-
Composite
โหมด Import
เป็นโหมดที่จะนำข้อมูลมาเก็บใน Data Model ข้อมูลที่เราทำงานด้วยจะเป็นข้อมูลที่ทำการ Import มรในตอนนั้น โดยหากจะต้องการข้อมูลล่าสุด จะต้องทำการ Refresh ข้อมูลใหม่
ตัวอย่างแหล่งข้อมูล
- ไฟล์ข้อมูลเช่น Excel, Text File / CSV File, PDF File เป็นต้น
- ฐานข้อมูลต่าง ๆ เช่น SQL Server, Azure SQL Server, Oracle, MySQL เป็นต้น
ข้อดีของ Power BI Import
- สามารถใช้ความสามารถทุก ๆ อย่างของ Power BI ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Data Transformation ด้วย Power Query หรือการคำนวณด้วย DAX (Data Analysis Expression)
- สามารถทำการเชื่อมโยง Data Source จากหลาย ๆ แหล่งข้อมูลได้
-
การแสดงผล Visualization ทำงานได้รวดเร็ว ใช้ความสามารถของ Vertipaq Engine อย่างเต็มความสามารถ
ข้อจำกัด
- ขนาดไฟล์จะใหญ่ จำเป็นจะต้องบริหารจัดการเป็นพิเศษ และมีข้อจำกัดว่า Import สามารถมีไฟล์ได้ขนาดสูงสุด 1 GB (แต่หากเป็น Power BI Premium สามารถมากกว่านี้ได้)
-
เมื่อเราทำการเปลี่ยนจาก Direct Query หรือ Live Connection มาเป็น Import จะไม่สามารถทำการเปลี่ยนกลับไปได้
โหมด Direct Query
เป็นโหมดที่จะไม่นำข้อมูลมาเก็บใน Data Model แต่จะเอามาเฉพาะโครงสร้าง หรือ Schema มาเท่านั้น ดังนั้น ไฟล์ pbix จะไม่ใหญ่ ข้อมูลที่แสดงใน Visualization จะเป็นการดึงเอามาจาก Data Source โดยตรง

ตัวอย่างแหล่งข้อมูล
- Microsoft SQL Server
- Power BI Dataset
ข้อดีของ Power BI Direct Query
- ข้อมูลที่เราทำงานด้วยจะเป็นข้อมูลล่าสุด
- สามารถใช้งาน Page Refresh ได้อัตโนมัติ โดยให้ Update ข้อมูลมาแสดงในรายงานได้ถึงระดับวินาที แทบจะเป็น Realtime Dashboard กันเลยทีเดียว
- ไฟล์ pbix จะมีขนาดเล็กมาก เนื่องจากไม่ได้เก็บข้อมูล แต่จะเก็บแค่โครงสร้างเท่านั้น
- ไม่เปลืองพื้นที่ของ Power BI Service ไม่จำเป็นจะต้องมีพื้นที่สำหรับ Report นี้
ข้อจำกัดของ Power BI Direct Query
- Performance ในการแสดงรายงานจะช้ากว่า เนื่องจากจะต้องทำการดึงข้อมูลจาก Data Source เมื่อต้องการแสดงผล หรือทำการคำนวณ และใช้ Bandwidth ในการ ดึงข้อมูลจาก Data Source
- มีข้อจำกัดในการทำ Data Transformation ด้วย Power Query
-
ไม่สามารถใช้งาน DAX Functions ได้ อาจจะจำเป็นต้องเตรียมการคำนวณที่ Data Source ต้นทาง
โหมด Live
Live Connection เป็นโหมดที่จะไม่นำข้อมูลมาเก็บใน Data Model เป็นการแสดงผลแบบ Realtime ที่ Data Source มีการ Update ข้อมูล

ตัวอย่างแหล่งข้อมูล
- SQL Server Analysis Services database
- Azure Analysis Services database
- Power BI Streaming Dataset
ข้อดีของ Power BI Live Connection
- การแสดงผลเป็นแบบ Realtime โดยไม่ต้อง Refresh
- ทำงานรวดเร็ว
- ไฟล์ pbix มีขนาดเล็กกว่า Import มาก
ข้อจำกัดของ Power BI Live Connection
- มีข้อจำกัดในการทำ Data Transformation ด้วย Power Query
-
ไม่สามารถใช้งาน DAX Functions ได้ อาจจะจำเป็นต้องเตรียมการคำนวณที่ Data Source ต้นทาง
โหมด Composite
Composite เป็นโหมดผสมที่ Power BI มีมาใหม่ (December 2020) เพื่อสามารถนำไฟล์มาผสมผสานแหล่งข้อมูลจาก Import และ Direct Query หรือ Live มาผสมกันได้
ข้อดีของ Power BI Composite
- สามารถนำแหล่งข้อมูลที่ผสมผสานกันได้ทั้ง Import, Direct Query หรือ Live
- เปิดโอกาสให้เราสามารถออกแบบ Data Model ได้ตามความเหมาะสมของ กลยุทธ์ ขององค์กรโดยเราสามารถทำการเปลี่ยนโหมดจาก Direct Query มาเป็น Import หรือจะเปลี่ยนโหมดจาก Live Connection มาเป็น Import ได้ แต่หากเปลี่ยนแล้วจะเปลี่ยนกลับไม่ได้
บทสรุปของ โหมดการทำงานกับ Power BI
ในบทความนี้น่าจะช่วยให้เราทำความเข้าใจการทำงานกับโหมดการทำงานของ Power BI แล้ว และเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับงานของเรา ซึ่งยังมีอีกหลายเทคนิคที่สามารถทำได้ คือการใช้ Power BIสามารถติดตามได้ใน YouTube และ Facebook ของ 9ExpertTraining กันได้ครับ